![]() |
กระต่ายแองโกร่า |
กระต่ายแองโกร่าเป็นกระต่ายสำหรับเลี้ยง (ไม่ใช่กระต่ายป่า) มีขนนุ่ม เป็นหนึ่งในพันธุ์ที่เก่าแก่มากที่สุด มีถิ่นกำเนิดมาจากเมือง Ankara (เมืองหลวงของประเทศตุรกี) อดีตเมืองนี้มีชื่อว่า แองโกร่า (Angora) ไม่เพียงแค่หระต่ายเท่านั้นที่เป็นที่โด่งดัง แต่ยังมีแพะแองโกร่า หรือแมวแองโกร่าอีกด้วย
![]() |
กระต่ายเบบเฟอร์น |
กระต่ายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศเบลเยี่ยม มีหลากหลายชนิด หลากหลายสี ที่นิยมเลี้ยงกันในปัจจุบัน เป็นลักษณะสีขาว ตาสีน้ำเงิน เป็นกระต่ายที่มีลำตัวยาว กระต่าย พันธุ์ขนาดใหญ่ เมื่อโตเต็มที่หนักประมาณ 4 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 4.5 กิโลกรัม
กระต่ายพันธุ์นี้เป็นกระต่ายที่มีตัวสีขาว แต่ที่บริเวณใบหู คอ จมูก ปลายเท้า และปลายหาง มีสีออกดำๆ ตาสีชมพู เป็นกระต่ายพันธุ์ขนาดกลาง มีช่วงไหล่และช่วงท้ายใหญ่ ตัวผู้เมื่อเติบโตเต็มที่หนักประมาณ 4 กิโลกรัม ตัวเมียหนัก 4.5 กิโลกรัม เลี้ยงง่าย โตเร็ว ให้ลูกดก เป็นกระต่ายขนาดกลาง และใช้เลี้ยงโชว์ ว่ากันว่า พัฒนามาจากกระต่ายพันธุ์ Himalayan พันธุ์ Chin chilla และพันธุ์ New Zeland White
- ชินชิล่ามาตรฐาน
- อเมริกันชินชิล่า
- แกนท์ชินชิล่า
ชินชิล่า |
เป็นกระต่ายพันธุ์ใหม่ที่ผสมพันธุ์มาจากสาย Chinchilla กระต่ายพันธุ์นี้มีสีเทา แต่มีขนบางส่วนสีน้ำเงิน สีดำ และสีขาว เป็นกระต่ายพันธุ์ขนาดกลาง มีสะโพกและชั้นหลังใหญ่ เมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้หนักประมาณ 4 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียหนักประมาณ 5 กิโลกรัม
![]() |
กระต่ายแกนท์ชินชิล่า |
กระต่ายพันธุ์แชมเปญสีเงิน (Champagne d’ Argent rabbit)
เดิมมีชื่อเรียกว่า French Silver (เงิน-ฝรั่งเศส, แต่ Argent ในภาษาฝรั่งเศส ก็แปลว่าเงินเช่นกัน) เป็นกระต่ายพันธุ์เก่าแก่ (ประมาณปี ค.ศ. 1800) นิยมเลี้ยงกันในแถบมณฑลแชมป์ ของฝรั่งเศส เป็นกระต่ายที่มีลำตัวยาว ส่วนหลังและบั้นท้ายมีเนื้อเยอะ ตัวผู้น้ำหนักประมาณ 4.5 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 5 กิโลกรัม เมื่อกระต่ายอายุ 2 เดือน กระต่ายจะหนักถึง 1.6 กิโลกรัม ในสหรัฐอเมริกานิยมเลี้ยงขายเป็นเนื้อ เพราะเป็นพันธุ์ที่โตเร็ว
![]() |
กระต่ายพันธุ์ดัชต์ |
กระต่ายพันธุ์ผสม (Fancies Rabbit)
มีกระต่ายที่เลี้ยงกันทั่วไป ซึ่งมีอยู่มาก ผสมปนเปกัน จนไม่สามารถจัดพันธุ์ได้แน่นอน หรือบางคนเรียกพันธุ์แฟนซี มีสีสันต่างๆกัน เช่น สีขาว ดำ น้ำตาล และเทา แต่ที่นิยมทั่วไป คือ สีขาว ตาแดง น้ำหนักของกระต่ายพันธุ์นี้ประมาณ 2 ถึง 2.5 กิโลกรัม ค่อนข้างโตช้า แต่ตายยาก กินอาหารพื้นบ้านได้ดี
กระต่ายพันธุ์เฟลมิช ไจแอนท์ (Flemish Giant rabbit)
![]() |
กระต่ายยักษ์ |
พันธุ์ฮาเล็คควีน (Harlequin rabbit)
![]() |
ฮาเล็คควีน |
กระต่ายพันธุ์หิมาลายัน (Himalayan rabbit)
กระต่ายพันธุ์ฮาวาน่า (Havana rabbit)
![]() |
กระต่ายพันธุ์ฮาวาน่า |
กระต่ายฮาวาน่าถูกยอมรับโดยสมาคม ABBA แล้ว กระต่ายพันธุ์นี้มี 4 สี คือ สีน้ำเงิน สีช็อกโกแลต สีดำและสี "น้ำตาล"*(broken) รูปร่างค่อนข้างกลม กระทัดรัด น้ำหนักโดยเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 2.0 ถึง 2.9 กิโลกรัม
*มันเป็นน้ำตาลแบบว่า ..อธิบายไม่ถูก
กระต่ายไลออนเฮด (Lionhead)

เป็นกระต่ายสายพันธุ์ใหม่ในอเมริกาและทั่วโลก เนื่องจากมันเพิ่งถูกยอมรับโดย ARBA เมื่อต้นปี 2014 ที่ผ่านมา ( 1 ก.พ. 2557 ) จริง ๆ แล้วมันเป็นพันธุ์หลายคนรู้จักกันมานานแล้ว แต่ตามหลักการ มันยังไม่ใช่สายพันธุ์ ก่อนหน้านี้มันจัดอยู่ในกลุ่มพวกพันธุ์ผสม เนื่องจากกระต่ายพันธุ์นี้มีลักษณะที่เกี่ยวกับพันธุกรรมที่ไม่แน่นอน
เมื่อกระต่ายโตเต็มที่จะมีน้ำหนักอยู่ในช่วง 1.13 ถึง 1.7 กิโลกรัม
ประวัติพันธุ์กระต่าย
กระต่ายไลออนเฮดมีถิ่นกำเนิดในประเทศเบลเยียม มีรายงานว่าสายพันธุ์นี้เกิดจากความพยายามที่จะผสมสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่ ให้ได้กระต่ายที่แคระและมีขนยาว โดยการผสมพันธุ์ระหว่างกระต่าย Swiss Fox และกระต่ายแคระ ND (เนเธอร์แลนด์) เรื่องนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดขนในบริเวณรอบศีรษะและไหล่ ยีนนี้กลายเป็นที่รู้จักในนาม "ยีนแผงคอ" จากนั้น "ยีนแผงคอ" ถูกแยกออกมาจากยีนอื่น ๆ เช่น ยีนขน ยีนสี
กระต่ายมินิลอป (Mini Lop)
ในปี ค.ศ. 1972 Bob Herschbach ได้ค้นพบกระต่ายสายพันธุ์มินิลอปในงานแสดงกระต่างแห่งชาติเยอรมัน ใน Essen ประเทศเยอรมัน กระต่ายมินิลอปตัวนั้นชื่อ Klein Widder ดังในรูป
กระต่ายมินิลอปตัวแรกกำเนิดมาจาก "German Big Lop" และ "Small Chinchilla"
German lops หนักประมาณ 3.6 กิโลกรัม รูปร่างเรียวและมีขนาดใหญ่ มีหูหนา
Bob Herschbach ได้ให้กำเนิดมินิลอปตัวแรกในสหรัฐฯ ซึ่งมีสีทึบ สำหรับรุ่นต่อมาสีของกระต่ายเปลี่ยนเป็นสีแถว ๆ สีน้ำตาล ซึ่งกลายมาเป็นสีมาตรฐานของกระต่ายพันธุ์มินิลอป
ในปี ค.ศ. 1974 หลังจากที่ Bob Herschbach มีกระต่ายมินิลอปแล้ว เขาก็ได้นำไปให้ทาง ARBA ขึ้นทะเบียนเป็นสายพันธุ์ใหม่ แต่ทาง ARBA แนะนำว่าควรทำการลดขนาดของกระต่ายลงให้มีความกระทัดรัดมากยิ่งขึ้นเพื่อให้เป็นกระต่ายที่มีความน่าสนใจ เพื่อการลดขนาดนี้ Bob Herschbach ได้ตามหาพ่อแม่พันธุ์กระต่ายอื่น ๆ มาผสมกับกระต่ายมินิลอปของเขา แล้วกระต่ายมินิลอปก็เป็นที่สนใจแก่ประชาชนทั่วไป
กระต่ายฮอลแลนด์ลอป
ฮอลแลนด์ลอปเป็นพันธุ์กระต่ายที่มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถูกยอมรับโดย Netherlands' Governing Rabbit Council ในปี 1964. และโดย American Rabbit Breeders' Association ในปี 1979. กระต่ายพันธุ์นี้เป็นกระต่ายที่นิยมอย่างมากในการเลี้ยงไว้ที่บ้านและนำมาแข่งขัน บางครั้งกระต่ายจะมีนิสัยอ่อนโยน แต่ก็มีบางครั้งที่มีความก้าวร้าวอยู่ในตัว
หลังจากส่งกระต่ายออกนอกประเทศฮอลแลนด์ และสมาคม ARBA ได้ยอมรับสายพันธุ์นี้ มันก็กลายเป็นกระต่ายที่ผู้คนที่นิยมอย่างรวดเร็ว แต่ประวัติของกระต่ายพันธุ์นี้ค่อนข้างมีน้อย ฮอลแลนด์ลอปรู้จักกันในอีกชื่อคือ Dwarf Lop มันเป็นกระต่ายที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เก่ง
กระต่ายไลออนเฮด (Lionhead)

เป็นกระต่ายสายพันธุ์ใหม่ในอเมริกาและทั่วโลก เนื่องจากมันเพิ่งถูกยอมรับโดย ARBA เมื่อต้นปี 2014 ที่ผ่านมา ( 1 ก.พ. 2557 ) จริง ๆ แล้วมันเป็นพันธุ์หลายคนรู้จักกันมานานแล้ว แต่ตามหลักการ มันยังไม่ใช่สายพันธุ์ ก่อนหน้านี้มันจัดอยู่ในกลุ่มพวกพันธุ์ผสม เนื่องจากกระต่ายพันธุ์นี้มีลักษณะที่เกี่ยวกับพันธุกรรมที่ไม่แน่นอน
เมื่อกระต่ายโตเต็มที่จะมีน้ำหนักอยู่ในช่วง 1.13 ถึง 1.7 กิโลกรัม
ประวัติพันธุ์กระต่าย
กระต่ายไลออนเฮดมีถิ่นกำเนิดในประเทศเบลเยียม มีรายงานว่าสายพันธุ์นี้เกิดจากความพยายามที่จะผสมสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่ ให้ได้กระต่ายที่แคระและมีขนยาว โดยการผสมพันธุ์ระหว่างกระต่าย Swiss Fox และกระต่ายแคระ ND (เนเธอร์แลนด์) เรื่องนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดขนในบริเวณรอบศีรษะและไหล่ ยีนนี้กลายเป็นที่รู้จักในนาม "ยีนแผงคอ" จากนั้น "ยีนแผงคอ" ถูกแยกออกมาจากยีนอื่น ๆ เช่น ยีนขน ยีนสี
กระต่ายพันธุ์นี้มีลักษณะ เด่นคือมีใบหูยาว ใหญ่ มีสีดำและสีขาว เมื่อโตเต็มที่ จะมีน้ำหนักประมาณ 4.5 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 4.8 กิโลกรัม มีรายชื่อดังต่อไปนี้
กระต่ายมินิลอป (Mini Lop)
Klein Widder |
กระต่ายมินิลอปตัวแรกกำเนิดมาจาก "German Big Lop" และ "Small Chinchilla"
German lops หนักประมาณ 3.6 กิโลกรัม รูปร่างเรียวและมีขนาดใหญ่ มีหูหนา
Bob Herschbach ได้ให้กำเนิดมินิลอปตัวแรกในสหรัฐฯ ซึ่งมีสีทึบ สำหรับรุ่นต่อมาสีของกระต่ายเปลี่ยนเป็นสีแถว ๆ สีน้ำตาล ซึ่งกลายมาเป็นสีมาตรฐานของกระต่ายพันธุ์มินิลอป
ในปี ค.ศ. 1974 หลังจากที่ Bob Herschbach มีกระต่ายมินิลอปแล้ว เขาก็ได้นำไปให้ทาง ARBA ขึ้นทะเบียนเป็นสายพันธุ์ใหม่ แต่ทาง ARBA แนะนำว่าควรทำการลดขนาดของกระต่ายลงให้มีความกระทัดรัดมากยิ่งขึ้นเพื่อให้เป็นกระต่ายที่มีความน่าสนใจ เพื่อการลดขนาดนี้ Bob Herschbach ได้ตามหาพ่อแม่พันธุ์กระต่ายอื่น ๆ มาผสมกับกระต่ายมินิลอปของเขา แล้วกระต่ายมินิลอปก็เป็นที่สนใจแก่ประชาชนทั่วไป
กระต่ายฮอลแลนด์ลอป
![]() |
กระต่ายอายุ 2 เดือน |
หลังจากส่งกระต่ายออกนอกประเทศฮอลแลนด์ และสมาคม ARBA ได้ยอมรับสายพันธุ์นี้ มันก็กลายเป็นกระต่ายที่ผู้คนที่นิยมอย่างรวดเร็ว แต่ประวัติของกระต่ายพันธุ์นี้ค่อนข้างมีน้อย ฮอลแลนด์ลอปรู้จักกันในอีกชื่อคือ Dwarf Lop มันเป็นกระต่ายที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เก่ง
![]() |
กระต่ายเนเธอร์แลนด์ดรอฟ |
ในตลาดซื้อขายกระต่ายก็มักจะพบเห็นการขายกระต่ายพันธุ์นี้เป็นจำนวนมาก นั้นแสดงให้เห็นว่ามันเป็นกระต่ายที่นิยม มันถูกเรียกสั้น ๆ ว่า "กระต่ายแคระ" ความนิยมเหล่านี้มาจากลักษณะของตัวกระต่ายที่มีขนาดเล็กน่ารักน่าเอ็นดู มันจึงถูกใจใครหลาย ๆ คนแม้ว่ากระต่ายแคระจะมีขนาดเล็ก แต่มันก็ต้องการพื้นที่มากพอ ๆ กับกระต่ายขนาดทั่วไป มันจำเป็นต้องวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีของมันเอง ความเข้าใจที่ว่ากระต่ายแคระต้องการพื้นที่เพียงเล็กน้อยนั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริง
กระต่ายพันธุ์นิวซีแลนด์ (New Zealand breed)
ในอเมริกา นิยมเลี้ยงพันธุ์นี้กันมาก เป็นกระต่ายเนื้อ หรือใช้ทดลองในห้องทดลอง มีหลายสี แต่ชนิดที่ “ขนสีขาว ตาสีชมพู” จะถูกเรียกว่า “New Zealand White” เป็นพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันแพร่หลายที่สุด เป็นกระต่ายขนาดกลาง เมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้หนักประมาณ 4.5 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 5 กิโลกรัม
กระต่ายพันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์ (New Zealand White rabbit)
กระต่ายพันธุ์นี้เป็นกระต่ายที่มีผู้นิยมอย่างแพร่หลายมากทั้งเลี้ยงเพื่อเอาหน้า เครื่องฟอกหนัง เป็นกระต่ายสีขาวสะอาดงดงามตาสีแดงให้ลูกดก นิยมเลี้ยงเป็นกระต่ายสดเนื้ิอส่งตลาดจะตาย พันธุ์นี้โตเร็ว ลูกกระต่ายอายุ 2 เดือนหนักถึง 2 กิโลกรัม ตัวผู้ ตัวยาวถึง 18 นิ้วครึ่งหนัก 45 กิโลกรัมตัวเมียยาว 19 นิ้วขึ้นหนัก 5 กิโลกรัมจะเป็นขณะที่อยู่ในความต้องการของตลาดในประเทศไทยนิยมใช้เป็นพ่อพันธุ์ผสม กับแม่พันธุ์ไก่พื้นเมือง
เป็นกระต่ายขนสั้น ขนยาวประมาณ 3 เซนติเมตร เป็นที่นิยมเลี้ยงในสหรัฐอเมริกา ตัวผู้เมื่อโตเต็มที่น้ำหนักประมาณ 3.2 กิโลกรัม ตัวเมียจะมีน้ำหนักประมาณ 3.6 กิโลกรัม
กระต่ายมินิเร็กซ์ (Mini Rex Rabbit)

มินิเร็กซ์เป็นสายพันธุ์กระต่ายที่มาจากฝรั่งเศษในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เกิดการกลายพันธุ์ของกระต่ายพันธุ์เร็กซ์(Rex) ทำให้รูปร่างผิดไปจากเดิม
เนื่องจากมินิเร็กซ์มีขนาดเล็กและมีความเป็นมิตรทำให้มันเป็นหนึ่งในสายพันธุ์กระต่ายที่นิยมที่สุดในสหรัฐฯ มินิเร็กซ์ถูกขึ้นทะเบียนโดย ARBA ในปี ค.ศ. 1988 และจากนั้นมันเป็นกระต่ายที่ผู้คนส่งเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก เมื่อโตเต็มที่มินิเร็กซ์จะมีน้ำหนักประมาณ 1.6-2.0 กิโลกรัม มีขนค่อนข้างสั้น เงางาม ขนกำมะหยี่ โดยเฉลี่ยขนจะยาว 1.56 เซนติเมตร
กระต่ายพันธุ์ซิลเวอร์ฟ๊อคซ์ (Silver Fox rabbit)
เป็นกระต่ายพันธุ์ขนาดกลางมี 2 ชนิด คือ ชนิดพันธุ์สีน้ำเงิน และชนิดพันธุ์สีดำ พันธุ์ขนน้ำเงิน จะมี Under Coat สีน้ำเงินสลับดำ (พันธุ์สีดำ จะมีแต่สีดำ) พันธุ์สีน้ำเงินจะมีขน Guard hair ยาวกว่าประมาณ 4 เซนติเมตร เป็นกระต่ายพันธุ์ขนาดกลาง มีลำตัวยาวปานกลาง เลี้ยงไว้เพื่อใช้ผลิตขน เมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้จะหนักประมาณ 4.5 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 5 กิโลกรัม
![]() |
นิวซีแลนด์ไวท์ |
เร็กซ์ |
กระต่ายมินิเร็กซ์ (Mini Rex Rabbit)

มินิเร็กซ์เป็นสายพันธุ์กระต่ายที่มาจากฝรั่งเศษในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เกิดการกลายพันธุ์ของกระต่ายพันธุ์เร็กซ์(Rex) ทำให้รูปร่างผิดไปจากเดิม
เนื่องจากมินิเร็กซ์มีขนาดเล็กและมีความเป็นมิตรทำให้มันเป็นหนึ่งในสายพันธุ์กระต่ายที่นิยมที่สุดในสหรัฐฯ มินิเร็กซ์ถูกขึ้นทะเบียนโดย ARBA ในปี ค.ศ. 1988 และจากนั้นมันเป็นกระต่ายที่ผู้คนส่งเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก เมื่อโตเต็มที่มินิเร็กซ์จะมีน้ำหนักประมาณ 1.6-2.0 กิโลกรัม มีขนค่อนข้างสั้น เงางาม ขนกำมะหยี่ โดยเฉลี่ยขนจะยาว 1.56 เซนติเมตร
พันธุ์ไซมีส เซบิล (Siamese Sable breed)
กระต่ายพันธุ์ซิลเวอร์ฟ๊อคซ์ (Silver Fox rabbit)
![]() |
ซิลเวอร์ฟ๊อคซ์ |
กระต่ายไทย (Thai Rabbit rabbit)
เป็นกระต่ายที่เลี้ยงกันทั่วไปในประเทศไทย ซึ่งโดยทั่วไป ไม่มีการคัดเลือกพันธุ์ มีหลายสี เช่น สีเทา สีขาว สีดำ-ขาว สีน้ำตาล เป็นกระต่ายขนาดเล็ก เมื่อโตเต็มที่น้ำหนักประมาณ 2 ถึง 3 กิโลกรัม กระต่ายไทยนั้นเลี้ยงง่าย และทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ไม่ต้องดูแลมากเหมือนกระต่ายต่างประเทศ
กระต่ายพันธุ์สิคคา-เสด (ZIKA-Z rabbit)
เป็นกระต่ายเนื้อพันธุ์ใหม่ที่ฟาร์มกระต่ายที่ชื่อ Sehweizernof ได้ใช้ความพยายามในการผสมพันธุ์คัดเลือกพันธุ์อยู่นานกว่า 20 ปี จนได้กระต่ายสายพันธุ์ใหม่ ที่มีคุณค่ามีสมบัติในการให้เนื้อดี สายพันธุ์นี้เป็นกระต่ายสีขาว ขนสั้น ตาสีสีชมพู ลำตัวยาว เมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้จะหนักราวๆ 4 กิโลกรัม ตัวเมียมีน้ำหนัก 4.5 กิโลกรัม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น