พันธุ์กระต่ายกระต่ายแคระ
เนเธอร์แลนด์ดวอฟ (Netherland Dwarf)
 |
กระต่ายเนเธอร์แลนด์ดรอฟ
ตาสีแดง อายุ 1 ปี 6 เดือน
|
เมื่อพูดถึงกระต่ายแคระ คนส่วนใหญ่มักจะหมายถึงกระต่ายพันธุ์เนเธอร์แลนด์ดรอฟ เนื่องจากมันเป็นพันธุ์ที่นิยม อย่างไรก็ตาม กระต่ายแคระมีอีกหลายสายพันธุ์ดังบรรทัดถัดไปเรื่อยๆ
ในตลาดซื้อขายกระต่ายก็มักจะพบเห็นการขายกระต่ายพันธุ์นี้เป็นจำนวนมาก นั้นแสดงให้เห็นว่ามันเป็นกระต่ายที่นิยม มันถูกเรียกสั้น ๆ ว่า "กระต่ายแคระ" ความนิยมเหล่านี้มาจากลักษณะของตัวกระต่ายที่มีขนาดเล็กน่ารักน่าเอ็นดู มันจึงถูกใจใครหลาย ๆ คนแม้ว่ากระต่ายแคระจะมีขนาดเล็ก แต่มันก็ต้องการพื้นที่มากพอ ๆ กับกระต่ายขนาดทั่วไป มันจำเป็นต้องวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีของมันเอง ความเข้าใจที่ว่ากระต่ายแคระต้องการพื้นที่เพียงเล็กน้อยนั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริง
กระต่ายแคระ ND ถูกเพาะเลี้ยงขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศเนเธอร์แลนด์ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยการนำกระต่ายสายพันธุ์โปแลนด์ที่มีขนาดเล็กมาผสมกับกระต่ายป่าขนาดเล็ก ผสมหลายต่าหลายรุ่น จึงเกิดเป็นกระต่ายสำหรับเลี้ยงที่มีขนาดเล็ก ซึ่งมีหลากลายสีสันเนื่องจากได้ยีนส์มาจากกระต่ายป่า กระต่าย ND ถูกนำเข้าในสหราชอาณาจักรครั้งแรกในปี 1948 ต่อมาในช่วงปี 1960 ถึง 1970 ก็ได้นำเข้าที่สหรัฐอเมริกา สายพันธุ์ได้รับการยอมรับโดย American Rabbit Breeders' Association ในปี 1969
 |
| กระต่าย American Fuzzy Lop |
เป็นสายพันธุ์กระต่ายที่ได้รับการยอมรับจาก ARBA มันมีลักษณะคล้ายกับกระต่ายฮอลแลนด์ลอป แต่จะมีขนฟูเหมือนพันธุ์ Angora-แต่จะมีขนที่สั้นกว่า กระต่าย American Fuzzy Lop นี้จะมีน้ำหนักไม่เกิน 1.81 กิโลกรัม ( 4 ปอนด์) ซึ่งเป็นพันธุ์กระต่ายแคระที่มีน้ำหนักมากที่สุด
เบื้องหลังของกระต่ายหูตกสายพันธุ์นี้คล้าย ๆ กับกระต่ายหูตกฮอนแลนด์ลอป ในตอนแรกเริ่ม กระต่ายฮอนแลนด์ลอปนั้นมีแต่สีพื้น ๆ ผู้พัฒนาสายพันธุ์ต้องการให้กระต่ายมีสีสันที่หลากหลายและสวยงามจึงพยายามพัฒนาให้กระต่ายฮอนแลนด์ลอปมีสี 'Broken' (ดูเกี่ยวกับสีของกระต่ายเพิ่มเติมได้ที่ "กระต่ายพันธุ์ Rex") จึงนพฮอนแลนด์ลอปไปผสมกับกระต่ายสายพันธุ์อื่น ๆ เช่น สายพันธุ์ English Spot, French Angoras,
หลังจากที่พัฒนาสายพันธุ์กระต่าย American Fuzzy Lop มาเป็นเวลากว่า 4 ปี เขาจึงได้นำกระต่ายที่พัฒนาได้ไปนำเสนอให้ ARBA ในปี 1985 เพื่อให้ ARBA ยอมรับสายพันธุ์ดังกล่าว กระต่ายที่นำไปมี 3 ลักษณะที่แตกต่างกัน ตัวต้นกำเนิดมีน้ำหนักมากที่สุด คือ 2.16 กิโลกรัม ...ARBA ยังไม่ยอมรับสายพันธุ์นี้
ในปี 1986 สมาคมกระต่าย ARBA ได้จัดประชุมในโคลัมเบีย รัฐโอไฮโอ กระต่ายหูตก American Fuzzy Lop ก็ได้ถูกนำเสนอเป็นครั้งที่ 2 ทางคณะกรรมการ ARBA ไม่เห็นชอบกับสายพันธุ์นี้
ในปี 1987 สมาคมกระต่าย ARBA ได้จัดประชุมในพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน กระต่ายเจ้าหูตกพันธุ์นี้ยังคงไม่เป็นที่ยอมรับ
ในปี 1988 ได้รับการยอมรับจากสมาคม ARBA
กระต่ายแคระ Dwarf Hototขนมีสีขาวเหมือนหิมะ ในหูตั้งตรง บริเวณดวงตาจะมีเส้นสีดำ ๆ เหมือนมาสคาร่า มีน้ำหนักสูงสุด 1.36 กิโลกรัม ( 3 ปอนด์)
กระต่ายพันธุ์นี้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เพิ่งถูกยอมรับโดย ARBA แต่มันก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก
ก่อนหน้านี้กระต่ายพันธุ์นี้ถูกเลี้ยงเพื่อจำหน่ายเนื้อ แต่เนื่องจากมีการพัฒนากระต่ายที่ให้เนื้อได้มากกว่า ผู้ประกอบการจึงเลือกสายพันธุ์อื่นที่ดีกว่า
เป็นกระต่ายที่มีใบหูตก ความยาวขนปานกลาง น้ำหนักสูงสุด 1.81 กิโลกรัม ( 4 ปอนด์ )
ฮอลแลนด์ลอป (Holland Lop) เป็นสายพันธุ์กระต่ายที่มีต้นกำเนิดในประเทศเนเธอร์แลนด์ สายพันธุ์นี้ถูกยอมรับโดย 'Netherlands' Governing Rabbit Council' ในปี 1964. และถูกยอมรับโดย 'American Rabbit Breeders' Association' ในปี 1979.
เป็นกระต่ายที่นิยมเลี้ยงไว้ในบ้าน และเป็นนิยมนำมาฝึกเพื่อแข่งขันอย่างกว้างขวาง บางครั้งมันก็มีอารมณ์อ่อนน้อม แต่ก็มีความดื้นรั้นเช่นกัน
หลังจากส่งกระต่ายออกนอกประเทศฮอลแลนด์ และสมาคม ARBA ได้ยอมรับสายพันธุ์นี้ มันก็กลายเป็นกระต่ายที่ผู้คนที่นิยมอย่างรวดเร็ว แต่ประวัติของกระต่ายพันธุ์นี้ค่อนข้างมีน้อย ฮอลแลนด์ลอปรู้จักกันในอีกชื่อคือ Dwarf Lop มันเป็นกระต่ายที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เก่ง
ในช่วงปี 1949 มีผู้พยายามผสมสายพันธุ์ French Lop ให้เป็น White Netherland Dwarf แต่ผลออกมาล้มเหลว
กระต่ายฮอนแลนด์ลอปถูกนำมาที่ประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรกในปี 1969 โดย George Scott น้ำหนักกระต่ายในตอนนั้นหนัก 1.36 กิโลกรัม
ในช่วงฤดูหนาวในปี 1978. มีกระต่ายพันธุ์นี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมากกว่ากระต่ายสายพันธุ์อื่นๆ กระต่ายฮอลแลนด์ลอปที่ถูกส่งมาจากประเทศฮอนแลนด์กลายเป็นกระต่ายที่มีลักษณะด้วยกว่าในอังกฤษเล็กน้อย 6 เดือนหลังจากนำเข้ากระต่ายจากฮอนแลนด์ สายเลือดของมันก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เป็นกระต่ายที่มีใบหูตั้งตรง มีขนเหมือนกระต่ายพันธุ์แองโกร่า มีน้ำหนักสูงสุด 1.58 กิโลกรัม (3.5 ปอนด์ )
ในปี 1984. รัฐนิวเจอร์ซีย์ ได้นำย์กระต่ายพันธุ์นี้ไปที่ ARBA-ที่รัฐฟลอริดา เพื่อขอให้รับรองสายพันธุ์ มันถูกยอมรับในปี 1988. ปัจจุบันกระต่ายพันธุ์นี้แพร่หลายไปทั่วโลก มันเป็นสัตว์ที่เชื่องมาก
กระต่ายพันธุ์ไลออนเฮด (Lion Head)เป็นกระต่ายสายพันธุ์ใหม่ในอเมริกาและทั่วโลก เนื่องจากมันเพิ่งถูกยอมรับโดย ARBA เมื่อต้นปี 2014 ที่ผ่านมา ( 1 ก.พ. 2557 ) จริง ๆ แล้วมันเป็นพันธุ์หลายคนรู้จักกันมานานแล้ว แต่ตามหลักการ มันยังไม่ใช่สายพันธุ์ ก่อนหน้านี้มันจัดอยู่ในกลุ่มพวกพันธุ์ผสม เนื่องจากกระต่ายพันธุ์นี้มีลักษณะที่เกี่ยวกับพันธุกรรมที่ไม่แน่นอน
เมื่อกระต่ายโตเต็มที่จะมีน้ำหนักอยู่ในช่วง 1.13 ถึง 1.7 กิโลกรัม
กระต่ายไลออนเฮดมีถิ่นกำเนิดในประเทศเบลเยียม มีรายงานว่าสายพันธุ์นี้เกิดจากความพยายามที่จะผสมสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่ ให้ได้กระต่ายที่แคระและมีขนยาว โดยการผสมพันธุ์ระหว่างกระต่าย Swiss Fox และกระต่ายแคระ ND (เนเธอร์แลนด์) เรื่องนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดขนในบริเวณรอบศีรษะและไหล่ ยีนนี้กลายเป็นที่รู้จักในนาม "ยีนแผงคอ" จากนั้น "ยีนแผงคอ" ถูกแยกออกมาจากยีนอื่น ๆ เช่น ยีนขน ยีนสี
นอกจากนี้ยังมีรายงานอื่น ๆ อีกมากมายที่คล้ายกันนี้ เช่น กระต่ายสายพันธุ์ไลออนเฮดเกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างกระต่ายเนเธอร์แลนด์ดรอฟและกระต่ายนิวเจอร์ซีย์ แต่รายงานต่าง ๆ ไม่มีการยืนยันใด ๆ กระต่ายไลออนเฮดได้รับความนิยมในยุโรป และมันเข้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายปี 1990
กระต่ายไลออนเฮดมีขนาดเล็ก รูปร่างกะทัดรัด และหัวโต ไม่ค่อยกลมโดยสมบูรณ์ ขามีความยาวปานกลาง มีกระดูกขนาดกลาง หูของมันจะยาวไม่เกิน 7.5 ซม. (3นิ้ว) ขนแผงคอจะมีความยาวอย่างน้อย 5 ซม. (2 นิ้ว) รอบคอ หรือที่ด้านหลังคอ ขนของไลออนเฮดอาจไม่ชี้ตรงเนื่องจากขนมีความยาวมาก อาจย้อยไปทางใดทางหนึ่ง สำหรับกระต่ายไลออนเฮดบางตัวจะมีขนที่แก้มที่เด่นชัดมาก
กระต่าย Miniature Lion Lopเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับโดย BRC หูของมันจะตกเล็กน้อย และแผงคอเหมือนกระต่ายพันธุ์ไลออนเฮด มีน้ำหนักอยู่ระหว่าง 1.5 - 1.6 กิโลกรัม
กระต่ายพันธุ์ Mini Lion Lop ถูกพัฒนาในประเทศอังกฤษในช่วงต้นยุค 2000. และได้รับการยอมรับในปี 2006. มันมีลักษณะคล้ายกระต่าย mini lop แต่มีขนยาวที่บริเวณแผงคอและบนหน้าอก
ทุกสีของ"กระต่ายมินิไลออนหูตก"นั้นเป็นสีมาตรฐาน เนื่องจากพันธุ์หูตกยังไม่ได้ถูกกำหนดเรื่องสีที่เป็นมาตฐาน
มันต้องใช้กระต่ายถึง 3 รุ่นในการแสดงออกของสีของสายพันธุ์ที่จะนำไปยืนยัน
LLUK เป็นสโมสรระดับชาติที่ทุ่มเทให้กับการพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ผู้ก่อตั้งและเป็นประธานโดย Jane Bramley นักผสมพันธุ์กระต่ายที่เป็นหัวหอกในสายพันธุ์ LLUK เขาแสดงให้เห็นว่าทั่วประเทศจะได้รับประโยชน์จากกระต่ายมินิไลออนหูตกอย่างแน่นอน
บรรณานุกรม
Wikipedia. (2557). Dwarf rabbit. ค้นข้อมูล วันที่ 1 มกราคม 2558. จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Dwarf_rabbit
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น